การสมรสกับฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้ลูก ของ เอเลนอร์ เดอ แคลร์

ตำนานเล่าว่าเอเลนอร์นั้นงดงามและได้เรื่องได้ราวที่สุดในบรรดาสามสาวพี่น้องเดอ แคลร์ เธอมีความคล้ายคลึงกับมารดาผู้เป็นขัตติยะนารีที่สุด ในฐานะพี่สาวคนโต เธอสมรสเป็นคนแรก เพื่อชดใช้หนี้ที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ติดฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้พ่อ ตระกูลเดสเปนเซอร์แม้จะเป็นตระกูลผู้ดีเก่าแก่ แต่ไม่มียศศักดิ์และที่ดิน เอเลนอร์ในตอนนั้นเองก็ไม่มียศศักดิ์และที่ดินเช่นกัน เธอสมรสกับฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้ลูกด้วยวัยเพียง 13 พรรษา ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1306 ที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ต่อหน้ากษัตริย์ พระราชินีมาร์เกอรีตอาจไม่ได้ไปร่วมงานเนื่องจากเพิ่งให้กำเนิดเอเลนอร์ พระราชบุตรคนสุดท้องของกษัตริย์เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนหน้า กษัตริย์มีพระชนมายุเกือบ 67 พรรษาและสิ้นพระชนม์ในอีกหนึ่งปีต่อมา (เอเลนอร์ พระธิดาซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของเอเลนอร์ เดอ แคลร์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1311 ด้วยวัยพียง 5 พรรษา) โจนแห่งเอเคอร์ มารดาของเอเลนอร์ซึ่งมาร่วมพิธีสมรสด้วยสิ้นพระชนม์ในอีก 11 เดือนหลังพิธีสมรส ไม่มีใครรูว่าอิซาเบล โบชอมป์ มารดาของฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ซึ่งเป็นธิดาของเอิร์ลแห่งวอริคมาร่วมพิธีสมรสด้วยหรือไม่ เธอเสียชีวิตหลังพิธีสมรสเพียง 4 วัน แขกที่มาร่วมพิธีอีกคนคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 น้าชายของเอเลนอร์ซึ่งได้แต่งตั้งฮิวจ์เป็นอัศวิน (พร้อมกับคนอีกเกือบ 300 คน) ก่อนพิธีสมรสเพียง 4 วัน โดยในตอนนั้นพระองค์ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์, เอิร์ลแห่งเชสเตอร์, เคานต์แห่งปงตีเยอและมงเตรยล์ และดยุคแห่งอากีแตน เพียส กาเวสตัน สหายรักของพระองค์ได้รับแต่งตั้งเป็นอัศวินในวันที่ฮิวจ์สมรสกับเอเลนอร์

ฮิวจ์ซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายไม่ใช่คู่สมรสที่เหมาะสมสำหรับพระนัดดาคนโตของกษัตริย์ แม้จะเป็นหลานชายของเอิร์ล, เป็นหลานชายเลี้ยงของเอิร์ลอีกคน (เอิร์ลแห่งนอร์ฟอล์กซึ่งถึงแก่กรรมในปีที่ฮิวจ์สมรส) และเป็นน้องภรรยาของเฮนรีแห่งแลงคัสเตอร์ พระภาติยะของกษัตริย์ แต่ฮิวจ์ไม่มีโอกาสที่จะได้สืบทอดตำแหน่ง บิดาของเขาครอบครองดินแดนขนาดกว้างใหญ่ไพศาลซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในมิดแลนด์และบักกิงแฮมเชอร์ แต่ฮิวจ์ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในดินแดนจนกว่าฮิวจ์ผู้พ่อจะถึงแก่กรรม

น้าชายของเอเลนอร์ขึ้นครองบัลลังก์เป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ในปี ค.ศ. 1307 พระองค์ดูรักใคร่พระภาคิไนยและเริ่มพระราชทานที่ดินให้แก่เธอและสามี ทั้งยังมอบตำแหน่งอันเป็นที่ปรารถนาของใครหลายคนให้เธอ โดยให้เธอเป็นหนึ่งในนางสนองพระโอษฐ์ของอีซาแบลแห่งฝรั่งเศส พระราชินีที่เพิ่งอภิเษกสมรสกัน ในปี ค.ศ. 1309 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ได้พระราชทานคฤหาสน์ซัตตันในนอร์ฟอล์กซึ่งเคยเป็นของอดีตอัศวินเทมพลาร์ให้แก่ฮิวจ์ ซึ่งเป็นของขวัญชิ้นเดียวที่เขาได้รับก่อนจะขึ้นเป็นคนโปรดของกษัตริย์ ในปี ค.ศ. 1310 ฮิวจ์ผู้พ่อได้ยกคฤหาสน์หกหลังให้แก่บุตรชาย

หนึ่งในสิ่งแรกๆ ที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ทำคือการจับพระภาคิไนยตระกูลเดอ แคลร์สมรส มาร์กาเร็ตและเอลิซาเบธมีชีวิตสมรสที่สั้นและไม่มีความสุข ทั้งคู่เป็นม่ายตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ปีและถูกจับสมรสใหม่ทันทีกับคนโปรดของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด แต่ชีวิตสมรสของเอเลนอร์กับฮิวจ์กลับเป็นไปอย่างราบรื่น เธอมีบุตรธิดาให้กับฮิวจ์ถึง 9 คนในช่วงปี ค.ศ. 1308 ถึง ค.ศ. 1325 ประกอบด้วยบุตรชายสี่คนและบุตรสาวห้าคนที่ล้วนภักดีต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดแม้จะประสบปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ได้แก่

  • ฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ บารอนเดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1308) บุตรชายคนโตและทายาท
  • กิลเบิร์ต เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1309)
  • เอ็ดเวิร์ด เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1310) เป็นทหาร ถูกสังหารในการปิดล้อมแวนส์ เป็นบิดาของเอ็ดเวิร์ด เดสเปนเซอร์ บารอนเดสเปนเซอร์ที่ 1 อัศวินแห่งการ์เตอร์
  • จอห์น เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1311)
  • อิซาเบล เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1312) สมรสกับริชาร์ด ฟิตซ์อาลัน เอิร์ลที่ 10 แห่งอารันเดล
  • เอเลนอร์ เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1315) เป็นแม่ชีที่วัดคริสต์เซมปริงแฮม
  • โจน เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1317) เป็นแม่ชีที่วิหารชาฟท์สบรี
  • มาร์กาเร็ต เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1319) เป็นแม่ชีที่วัดคริสต์วัตตัน
  • เอลิซาเบธ เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1325) สมรสกับมอริส เดอ บาร์กลีย์ บารอนบาร์กลีย์

ในยุคที่ที่ดินคืออำนาจ ความไร้อำนาจของฮิวจ์ทำให้เอเลนอร์ไม่ค่อยมีอิทธิพล ทว่าเธอเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาในราชสำนักในฐานะนางสนองพระโอษฐ์ผู้ติดตามของพระราชินีอีซาแบลและร่วมเดินทางไปฝรั่งเศสพร้อมกับพระราชินีในปี ค.ศ. 1313 อีซาแบลซึ่งเป็นน้าสะใภ้ของเอเลนอร์มีอายุน้อยกว่าเธอหลายปีและมีผู้ติดตามเป็นกลุ่มธิดาขุนนางที่ต่างก็มีสามี, มีครอบครัว และมีความรับผิดชอบตามระบอบศักดินาเป็นของตนเอง เอเลนอร์มีคณะผู้ติดตามของตนเองโดยจอห์น เดอ เบิร์กแฮมสเต็ดเป็นมหาดเล็กของเธอ

เอเลนอร์ยังสนิทสนิมกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 น้าชายที่ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เวลาที่เธออยู่ในราชสำนัก บางครั้งแม้เธอจะไม่ได้อยู่ในราชสำนักพระองค์ก็ยังคงจ่ายให้ ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษที่พระภาคิไนยคนอื่นๆ ไม่ได้ เธอมักปรากฏอยู่ในเอกสารในยุคนั้นในฐานะ "เลดีเอเลนอร์ เดสเปนเซอร์" พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไม่ได้รักแค่เธอ แต่ยังเผื่อแผ่ความรักไปให้สามีของเธอด้วย

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1314 กิลเบิร์ต เดอ แคลร์ผู้ลูก เอิร์ลแห่งกลอสเตอร์วัย 23 ปี พี่ชายของเอเลนอร์ถูกสังหารระหว่างทำสมรภูมิแบนน็อคเบิร์น พระเจ้าโรเบิร์ต เดอะ บรูซ กษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเอเลนอร์เฝ้าศพของเอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ทั้งคืนและส่งคืนกลับอังกฤษอย่างสมเกียรติโดยไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ แม้พระองค์จะมีสิทธิ์เรียกร้อง มาทิลดา ภรรยาม่ายของเอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ประกาศว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นการโกหก กษัตริย์เฝ้ารอทายาทที่กำลังจะเกิดของกิลเบิร์ตด้วยความอดทน มาทิลดาหลอกรัฐสภาได้สามปีก่อนที่ความจริงจะถูกเปิดเผย รัฐสภามีคำสั่งให้แบ่งทรัพย์สินที่ดินของเดอ แคลร์เป็นสามส่วนเท่าๆ กันให้แก่น้องสาวทั้งสามคนของเอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ เนื่องจากกฎหมายสมัยกลางกำหนดให้พี่น้องหญิงได้สืบทอดมรดกเท่าๆ กัน ขณะที่กฎบุตรคนโตใช้ได้กับบุตรเพศชายเท่านั้น

ใกล้เคียง

เอเลนอร์แห่งอังกฤษ สมเด็จพระราชินีแห่งกัสติยา เอเลนอร์ เดอ แคลร์ เอเลนอร์แห่งนอร์ม็องดี เอเลนอร์ มาร์กาเร็ต กรีน เอเลนอร์ โรเซอเวลต์ เอเลนอร์แห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส เอเลนอร์แห่งอังกฤษ เคานเตสแห่งเลสเตอร์ เอเลนอร์แห่งอังกฤษ เคาน์เตสแห่งบาร์ เอเลนอร์แห่งอารากอน สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส เอเนอร์เจีย